วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551

โอว..อัลบั้มเพลงบนเมมโมรี่ การ์ด

ยักษ์วงการดนตรีจับมือแซนดิสก์ค้าเพลงผ่านการ์ด
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ :
รายงานข่าวจากเวบไซต์วอลสตรีท เจอร์นัล ระบุว่า บริษัท แซนดิสก์ คอร์ป ได้ร่วมมือกับ 4 ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ และบริษัทค้าปลีกคือ เบสต์บาย และร้านวอลมาร์ท เตรียมจำหน่ายอัลบั้มเพลงที่บันทึกลงบน ไมโครเอสดี เมมโมรี่ การ์ดส์ ภายใต้ชื่อ "สล็อตมิวสิค" (slotMusic) สามารถเล่นเพลงผ่านโทรศัพท์มือถือ เครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องเล่นเพลงพกพาเอ็มพี 3
ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มวางตลาดกลางเดือน ต।ค. นี้ ซึ่งการ์ดดังกล่าวจะบรรจุอัลบั้มเพลงของศิลปิน และเพิ่มเนื้อหาพิเศษอื่นๆ เช่น มิวสิควิดีโอ เบื้องหลังการถ่ายทำ และบทสัมภาษณ์
แหล่งข่าว กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการทดลองตลาดรูปแบบใหม่ โดยจะเริ่มต้นด้วย 29 อัลบั้มเพลง จาก 4 ค่ายเพลง คือ อีเอ็มไอ กรุ๊ป, วอร์เนอร์ มิวสิค กรุ๊ป, ยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป และ โซนี่ บีเอ็มจี มิวสิค เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เน้นที่ศิลปินแนวเพลงป๊อป เช่น ริฮานญ่า, เน-โญ, นิวคิดส์ ออน เดอะ บล็อก, อาเชอร์, เอคอน และ ลีโอน่า ลูอิส รวมถึงมีการเอาใจกลุ่มฟังเพลงเก่า โดยการนำเพลงของเอลวิส เพรสลี่ มาทำใหม่ด้วย
เพลงที่บรรจุในสล็อตมิวสิค จะมาพร้อมกับยูเอสบีขนาดเล็กสำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ การ์ดความจุ 1 กิกะไบต์ มีฟอร์แมตแบบ เอ็มพี3 ที่ไม่มีการป้องกันการคัดลอก ผู้ใช้สามารถโอนถ่ายเพลงไปลงคอมพิวเตอร์ผ่านสายยูเอสบี โดยกำหนดราคาอัลบั้มไว้ที่ 15 ดอลลาร์
รายงานข่าว กล่าวว่า ที่ผ่านมายอดขายซีดีเพลงลดลงอย่างต่อเนื่อง และเมื่อต้นปี ร้านไอจูนส์ ของแอ๊ปเปิ้ล ได้กลายเป็นช่องทางจำหน่ายเพลงใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้าวอลมาร์ทแล้ว
นายแดเนียล ชไรเบอร์ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจออดิโอ-วิดีโอของแซนดิสก์ กล่าวว่า สล็อตมิวสิคมีความได้เปรียบ เพราะสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ที่ผู้ใช้พกติดตัวอยู่แล้ว โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือกว่า 100 ล้านเครื่องทั่วโลก ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่เพิ่มเติม


ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com/

วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2551

อินเทลแจ้งเกิดชิป45นาโนรุ่นแรก




ตามกำหนดการ อินเทลจะเปิดตัวโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ทั้งหมด 16 รุ่นในวันจันทร์ที่ 12 พ।ย। (เวลาสหรัฐฯ) โดยในประเทศไทยจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันอังคารที่ 13 ซึ่งรายงานจากสำนักข่าวเอพีระบุว่า ชิปทั้ง 16 รุ่นนั้นออกแบบมาสำหรับคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์และพีซีสำหรับคอเกม ประสิทธิภาพเต็มขั้นไร้ปัญญาไฟ

รายงานของเอพีชี้ว่า ชิปเทคโนโลยี 45 นาโนเมตรของอินเทลส่วนใหญ่จากทั้งหมด 16 รุ่นนั้นมีทรานซิสเตอร์จำนวน 820 ล้านตัว หากเป็นชิปรุ่นเดียวกันแต่ผลิตด้วยเทคโนโลยีมาตรฐานปัจจุบัน 65 นาโนเมตรจะสามารถฝังทรานซิสเตอร์ได้ 582 ล้านตัว เทียบกับชิปรุ่นแรกของอินเทลเมื่อปี 1970 ที่มีทรานซิสเตอร์เพียง 2,300 ตัวเท่านั้น

เทคโนโลยีการผลิตที่เล็กลง หมายถึงความสามารถในการเพิ่มทรานซิสเตอร์ที่มากขึ้นบนซิลิกอนขนาดเท่าเดิม ทรานซิสเตอร์ที่มากขึ้นทำให้ชิปมีประสิทธิภาพมากขึ้น บนต้นทุนวัตถุดิบราคาลดลง

ไม่เพียงเทคโนโลยีการผลิต 45 นาโนเมตร แต่ชิปรุ่นใหม่จากอินเทลยังมีความพิเศษที่ทรานซิสเตอร์ซึ่งอินเทลพัฒนาให้มีขนาดเล็กลง เทียบสัดส่วนแล้วทรานซิสเตอร์รุ่นใหม่จำนวน 30 ล้านตัวสามารถเรียงลงหัวเข็มหมุดได้พอดี ขนาดทรานซิสเตอร์ที่เล็กลงช่วยให้ชิปสามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วขึ้นและลดการเผาผลาญพลังงานลงได้ ที่สำคัญ อินเทลยังพัฒนาวัสดุผลิตทรานซิสเตอร์ชนิดใหม่ที่การันตีว่าสามารถแก้ไขปัญหาไฟรั่วได้ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ผู้ผลิตต้องพบเจอในการย่อขนาดทรานซิสเตอร์ โดยปัญหาไฟรั่วนั้นนำไปสู่ปัญหาเปลืองไฟ และระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่สั้นลง

ที่ผ่านมา อินเทลนั้นประกาศแผนตั้งโรงงานผลิตชิป 45 นาโนเมตรด้วยเงินจำนวนถึง 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยการเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นการชิงเปิดตัวก่อนคู่แข่งอย่างเอเอ็มดีราว 6 เดือน

อินเทลเปิดเผยว่า ชิป 45 นาโนเมตรสำหรับคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปและแลปท็อปจะเริ่มทำตลาดได้ในไตรมาสแรกของปีหน้า (2008) ขณะที่เอเอ็มดีซึ่งจับคู่กับไอบีเอ็มพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปนั้นวางกำหนดการไว้ที่กลางปี

สำหรับ 16 ชิปรุ่นใหม่ของอินเทลที่กำลังจะเปิดตัวในเมืองไทยนี้ รุ่น 4 คอร์มีความเร็วตั้งแต่ 2-3.20 GHz ความเร็วนาฬิการุ่นดูอัลคอร์อยู่ที่ 3.40 GHz ราคาชิปสำหรับเซิร์ฟเวอร์อยู่ระหว่าง 177-1,279 เหรียญสหรัฐ (ราคาจำหน่ายส่ง 1,000 ชิ้นขึ้นไป) ขณะที่ชิปสำหรับพีซีเกมเริ่มที่ 999 เหรียญ (ราคาส่ง 1,000 ชิ้น) โดยอินเทลระบุว่าพร้อมจำหน่ายภายใน 45 วันนับจากนี้








ที่มา:http://www.makewebez.com/news/index

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551

Wireless: The Next Generation

ขอแนะนำชุดประชุมทางไกลผ่าน Video Conference

บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด ขอแนะนำชุดประชุมทางไกลผ่านจอภาพ Video Conference รุ่น PCS-1P ที่มีขนาดกะทัดรัด แต่ให้ความคมชัดสูงด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยทางด้านภาพเคลื่อนไหวและเสียงเข้าด้วยกัน พร้อมความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลภาพได้สูงสุดถึง 2 Mbps ทั้งยังให้คุณประชุมพร้อมๆ กันได้มากถึง 10 จุด รวมถึงการแชร์ไฟล์ข้อมูลก็ทำได้ไม่ยาก รองรับการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบ Power Point, Excel และ Word ซึ่งตอบสนองความต้องการของโลกธุรกิจปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดประชุม ทั้งประหยัดเวลาในการเดินทาง และเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจทางธุรกิจให้รวดเร็วยิ่งขึ้น Video Conference รุ่น PCS-1P พิเศษเฉพาะช่วงโปรโมชั่นนี้ สนนราคาที่ 99,000 บาท (ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จากปกติราคา 149,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ตุลาคม 2551 นี้เท่านั้น

วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ฮีโร่โอลิมปิกคนใหม่

ประเทศไทยมี "ฮีโร่โอลิมปิก" คนใหม่ ชื่อ ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล จอมพลังสาวนักยกน้ำหนักทีมชาติไทย หลังจากสาวจากเมืองปากน้ำโพคว้าเหรียญทองยกน้ำหนัก ในกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 29 มาครองได้สำเร็จ แต่เส้นทางสู่ความสำเร็จไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หากปราศจากความมุมานะ บากบั่น ด้วยจิตใจที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กที่เธอยกเสียอีก

"น้องเก๋" ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล ชื่อเดิม จันทร์พิมพ์ กันทะเตียน เป็นบุตรสาวของ นายจันทร์แก้ว กันทะเตียน และ นางราศรี ทัดทอง เกิดเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2527 ที่ จังหวัดนครสวรรค์ ปัจจุบันอายุ 24 ปี สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษา จากโรงเรียนนวมินทราชูทิศ พายัพ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง จากวิทยาลัยพลศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ก่อนมาเป็นบัณฑิตสาวจากสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ ขณะนี้กำลังศึกษาระดับปริญญาโท ที่สถาบันแห่งเดียวกัน เด็กสาวที่ชื่อ จันทร์พิมพ์ เล่นยกน้ำหนักครั้งแรก ในปี 2537 มี อ।สมชาติ แสงน้อย และ อ।ประทีป แสงน้อย เป็นโค้ชคนแรก ก่อนเข้าสังกัด สโมสรถาวรฟาร์ม ของ จังหวัดนครสวรรค์ กีฬายกน้ำหนักเป็นกีฬาที่ไม่สนุก และต้องใช้ความอดทน มุมานะอย่างสูง เรื่องของความสวยงามที่สตรีเพศทุกคนใฝ่หานั้นไม่ต้องพูดถึง และกว่าที่จันทร์พิมพ์ จะสามารถก้าวขึ้นถึงทีมชาติ ต้องรอคอยกระทั่งถึงปี 2544

ในเว็บไซต์ของ ม.นอร์ท-เชียงใหม่ กล่าวยกย่อง จันทร์พิมพ์ ในฐานะนักศึกษาทุน 100% ประเภทนักกีฬา ว่า "น้องเก๋" ไม่เคยท้อต่ออุปสรรค ด้วยเพราะต้องเป็นเสาหลักของครอบครัว และเงินที่ได้รับจากการแข่งขันทุกครั้งได้นำมาดูแลครอบครัวที่มีฐานะค่อนข้างยากจน จนปัจจุบันความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้นมาก แต่จันทร์พิมพ์ยังมุ่งมั่นและทุ่มเทให้กีฬายกน้ำหนักอยู่เสมอ ความผิดหวังครั้งสำคัญของ จันทร์พิมพ์ เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน ในการคัดเลือกเป็นตัวแทนทีมชาติเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2004 ที่ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ในรุ่น 53 กิโลกรัมหญิง โดยสมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทย ตัดสินใจส่ง "น้องอร" อุดมพร พลศักดิ์ เป็นผู้ที่ได้ตั๋ว "เอเธนส์เกมส์" ส่วน "น้องเก๋" ซึ่งประสบอาการบาดเจ็บต้องตกเครื่องในเที่ยวสุดท้าย ซึ่งในเวลาต่อมา "น้องอร" กลายเป็นฮีโร่นักกีฬาหญิงคนแรกของประเทศไทย ที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์มาครอง พร้อมกับวลี "สู้โว้ย" ที่ดังไปทั่วประเทศ ความเศร้าเสียใจเปรียบเสมือนฝันร้ายในครั้งนั้น "น้องเก๋" เกือบจะอำลาทีมชาติ ด้วยฉายา "จอมพลังขี้แย" หลังจากความโศกเศร้า ความเสียใจผ่านพ้นไป "น้องเก๋" เปลี่ยนชื่อและนามสกุลใหม่จาก "จันทร์พิมพ์ กันทะเตียน" มาเป็น "ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล" เช่นเดียวกับครอบครัวก็เปลี่ยนนามสกุลมาใช้ "เจริญรัตนธารากูล" เช่นเดียวกัน "จันทร์พิมพ์" คนเดิม ทิ้งไว้เบื้องหลัง "ประภาวดี" กำลังจะก้าวต่อไป ...

ผลงานของน้องเก๋ ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล

- 1 เหรียญทองแดง ยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก (ชายครั้งที่ 73 หญิงครั้งที่ 16) ที่ ประเทศแคนาดา ปี 2546
- 1 เหรียญทอง กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 22 ที่ประเทศเวียดนาม ปี 2546
- 3 เหรียญทอง ยกน้ำหนักเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย (ชายครั้งที่ 17 หญิงครั้งที่ 9 ) ที่ จังหวัดเชียงใหม่ ปี 2547
- 3 เหรียญทอง ยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ปี 2548
- 1 เหรียญทอง ยกน้ำหนักชิงแชมป์โลกที่กาตาร์ ปี 2549
- 3 เหรียญทอง ยกน้ำหนักชิงชนะเลิศมหาวิทยาลัยโลก ที่เมืองอิซเมียร์ ประเทศตุรกี ปี 2549
- 1 เหรียญเงิน กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 15 ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ปี 2549
- 1 เหรียญทอง ยกน้ำหนักชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศจีน ปี 2550
- นักกีฬาเยาวชนสมัครเล่นหญิงดีเด่น ในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2546 จากการกีฬาแห่งประเทศไทย
ที่มา:http://hilight.kapook.com/view/27555

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ระลึกพระคุณแม่

คำว่า “แม่” เป็นคำที่น่าฟัง ไพเราะเสนาะหูเป็นคำที่เด็กพูดก่อนคำใด เมื่อเด็กสามารถพูดได้แล้วคำแรกที่เด็กพูดได้คือคำว่า “แม่” จุดมุ่งหมายที่เรียกนั้นคือเรียกคนที่เขารู้จักที่ใกล้ชิดเขามากกว่าใครๆ สัมผัสที่เด็กได้สัมผัสนั้นก็คือ ร่างกายของแม่ น้ำนมของแม่ ที่สร้างความผูกพัน ความรักจึงทำให้เด็กเกิดความรักและความเคารพ

คุณแม่ของฉันคือผู้ให้ไม่ว่าจะความรัก ความห่วงใย ความคิดถึง แม่คือครูคนแรกผู้สั่งสอนฉัน สอนให้หัดเดิน สอนให้หัดพูด สอนให้เป็นคนดี คอยช่วยเหลือเรื่องการบ้านหรือไม่ว่าจะการทบทวนก่อนสอบ แม่คือแพทย์ประจำบ้าน เวลาฉันป่วยหรือเป็นไข้ ก็ได้แม่นี่แหละเฝ้าคอยรักษา เฝ้าไข้ บางครั้งท่านก็ไม่ได้นอนก็เพราะฉัน ในตอนเช้าที่ฉันตื่นขึ้น ฉันก็เห็นแม่ยิ้มให้แล้วบอกว่า “อาการดีขึ้นรึยังลูก ปวดตรงไหนหรือเจ็บตรงไหนรึเปล่า” โดยท่านไม่บ่นซักคำ และ เวลาฉันต้องการสิ่งใด แม่ก็จะจัดหามาให้ ในเวลาที่เราทำผิดนั้นแม่ตีเรานั้น แม่ก็ตีด้วยความหวังดีเพื่อที่จะไม่ให้ทำผิดอีกเป็นครั้งที่ 2 แม่ทุกคนบนโลกย่อมรักลูกอยู่แล้วซึ่งในการตีไม่ใช่เพราะว่าความสะใจหรือความสนุกแต่เพราะอยากให้ฉันเป็นคนดี

แล้วเนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาตินี้ ฉันขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ฉันนับถือให้ช่วยคุ้มครองแม่ให้มีความสุข ปลอดภัยจากโรคทั้งปวง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของครอบครัวตลอดไป สุดท้ายนี้ ฉันไม่มีคำพูดอันสวยหรูและฉันไม่มีกระทั่งคำพูดที่ทำให้แม่ประทับใจใดๆเลย แต่ฉันอยากจะกล่าวดังๆให้โลกได้ยินว่า “ฉันรักแม่ที่สุดโดยไม่มีคำบรรยาย”